บทกวีบทนี้เป็นการมองโลกแบบวัยเยาว์ที่มองทุกอย่างภายในโลกเป็นสิ่งที่สวยงาม
เห็นสิ่งไหนก็ดีงามไปหมด ชีวิตที่เต็มไปด้วยความสดใส ซึ่งสิ่งเหล่านี้ฉันมองว่ามันเป็นสิ่งที่ดี
เพราะมันคือการเตือนตัวเองว่า ครั้งหนึ่งเราเคยมองว่าสิ่งรอบตัวของเรามันช่างสดใสและสวยงามเพียงใด
ก่อนที่เราจะไปเผชิญกับสิ่งต่าง ๆ ของบทเรียนแห่งชีวิตที่เราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าในวันข้างหน้าจะยังมีตัวเราที่สดใส ร่าเริงเหมือนตอนนี้ไหม
หรือจะเปลี่ยนไปมากน้อยเพียงใด จะเจอกับความสุข หรือเจอกับความทุกข์ สิ่งเหล่านี้เราไม่สามารถคาดเดาได้เลย
แต่ทุกคนคงหวังว่าเราจะมีแต่ความสุขเหมือนดั่งตอนนี้ในทุก ๆ วัน
แต่เมื่อชีวิตได้ก้าวเดินไปข้างหน้า
เราไม่สามารถจะตอบได้อย่างเต็มปากว่าเรามีความสุขหรือความทุกข์ โลกที่เรามองเห็นก็จะเริ่มเปลี่ยนไป
มันอาจจะไม่สวยเท่ากับเมื่อก่อน บางคนอาจจะคิดว่ามันเลวร้ายเสียจนอยู่ไม่ได้ หรือบางคนอาจจะรู้สึกว่าเฉย
ๆ และปล่อยวางกับทุกอย่าง หรือบางคนอาจจะอยู่กับโลกใบเดิมในจินตนาการเพื่อหลีกหนีจากโลกแห่งความเป็นจริงก็แล้วแต่
แต่จงจำความรู้สึกเมื่อครั้งหนึ่งที่เป็นเด็กไว้เสมอว่า
ครั้งหนึ่งโลกนี้มันช่างน่าอยู่มากเพียงใด และเรามีความสุขกับมันมากแค่ไหนในวันนั้น