บทกวีบทนี้เป็นการเล่าเรื่องของต้นยางที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่ความแห้งแล้ง
แต่กลับสามารถที่จะหยั่งรากลงดินและสามารถเติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของพืชในประเภทอื่นได้ ต้นยางสามารถที่จะเติบโตเป็นต้นยางให้คนสามารถกรีดเอาไปเลี้ยงชีพได้
และในช่วงท้ายได้มีการพูดถึงเรื่องแม่ผู้เสียสละและมีพระคุณกับลูกซึ่งเป็นบุญคุณที่หาที่สุดไม่ได้
ซึ่งในจุดนี้จากบทกวีบทนี้ทำให้ฉันรู้สึกว่า ต้นยางก็มิได้ต่างอะไรกับแม่
ถึงแม้จะลำบากแต่ก็ยังหยั่งรากลงดิน เป็นฐานยึดหลักเพื่อให้ลูกเติบโตได้
น้ำยางก็เหมือนกับนมที่สามารถนำมาเลี้ยงคนเราให้เจริญเติบโตได้
ถึงแม้ว่าต้องแลกกับการโดนกรีด โดยมีดกรีดเป็นแผลอยู่ที่เดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ตาม ทุกอย่างก็คือการเสียสละ
อันเป็นพระคุณอย่างยิ่งที่ทำให้เห็นถึงคุณค่า และความอดทนในการเลี้ยงดู ถึงแม้สิ่งที่เจอในชีวิตจะลำบากก็ตาม
ซึ่งหากมองบนรอยของต้นยางก็เหมือนเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า
บาดแผลบนนั้นเป็นรอยที่ทำให้เห็นว่าทั้งความรัก บุญคุณและความอดทนของแม่ที่เลี้ยงดูเรามาจนเติบใหญ่อย่างทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย