ชื่อบทกวี “ดอกกระมัง” ในรวมบทกวี “มือนั้นสีขาว” โดย ศักดิ์สิริ มีสมสืบ
ตีความ
ฉันคิดว่ากะละมังที่มีดอกนี้น่าจะหมายถึง คนที่อดอยาก
เพราะว่าถ้าเกิดกะละมังที่มีดอกมีดวง ก็คือกะละมังที่ผ่านการใช้มาหลายครั้งแล้ว จนได้มีดอกมีดวงขึ้นได้ ก็เพราะผ่านการใช้มาหลายครั้งแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับกลอนบทสุดท้าย ที่บรรยายถึงเด็กหิวโหยเคาะกะละมังแต่กลับไม่มีคนสนใจเพราะมัวแต่ฟังเสียงกังสดาลอยู่มากกว่าที่จะมาสนใจความหิวโหยของเด็กเหล่านั้น
ส่วนกะละมังที่ไม่มีดอกมีดวงก็คือกะละมังของคนที่มีกิน
เพราะว่าถ้าดูจากการเขียนของผู้แต่งแล้ว
จะเห็นว่ากะละมังไม่มีดอกดูไม่น่ากินเท่ากะละมังที่มีดอก อาจจะตีความหมายได้ว่า
กะละมังที่ไม่มีดอกนั้นเป็นของคนที่มีกิน เพราะคนเหล่านี้ไม่ค่อยกินอาหารกันให้หมด
จึงทำให้อาหารในนั้นไม่ค่อยยุบ ส่วนกะละมังที่มีดอกดูน่ากินกว่าก็เพราะว่า
คนที่ใช้กะละมังที่มีดอกนั้นมีความหิวโหยมากกว่า และเมื่อได้อาหารมาก็ต้องรีบกิน
กินเพื่อปะทังชีวิต
จึงอาจทำให้มองเห็นได้ในเชิงเปรียบเทียบของกะละมังที่จะทำให้เห็นได้ชัดว่า
ความเป็นอยู่ของสองฝ่ายแตกต่างกันอย่างไร