ชื่อบทกวี “ถุงมือ” ในรวมบทกวี “มือนั้นสีขาว” โดย ศักดิ์สิริ มีสมสืบ
ตีความ
บทนี้ทำให้ฉันรู้สึกว่าถึงมือที่ใครหลายคนใส่เมื่อสัมผัสกันตอนโตนั้น ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากหน้ากากที่เอาไว้ใส่ในการเข้าหาคนอื่นอยู่ดี
ถุงเมือนั้นเมื่อใช้สัมผัสใครสักคนหนึ่งแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะเปลี่ยนคู่ใหม่และทิ้งคู่เก่าทันทีเมื่อมันหมดความจำเป็นแล้ว
ในบทนี้ที่เห็นว่าเด็กน้อยเกิดสงสัยและสับสนว่าทำไมคนที่เป็นผู้ใหญ่ที่อยู่ด้วยกันในสังคม
ถึงได้ใส่ถุงมือสัมผัสกัน ทั้ง ๆ ที่เด็กนั้นมีแค่มือเปล่าที่ใช้สัมผัสสิ่งต่าง ๆ
เด็กจึงหาถุงมือในถังขยะที่มีคนทิ้งไว้ เมื่อเด็กลองใส่มันก็หลวมมาก ถอดออกได้ง่าย
แต่เมื่อเด็กน้อยโตขึ้นมันก็ไม่สามารถถอดได้แล้ว
ทำให้ฉันเห็นว่ามันก็เปรียบเสมือนกับคนเราเมื่อยามที่เราเป็นเด็ก เราต่างชอบที่จะใช้มือเราสัมผัสสิ่งต่าง ๆ
มากมายเพื่อเรียนรู้
แต่เมื่อเราโตขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งเหล่านั้นก็หายไป จากมือเปล่าที่เคยสัมผัสกันกับใครหลายคน เราต่างได้รับความรู้สึกต่าง ๆ
มากกมายจากการจับมือด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้วยความเป็นมิตร แต่เมื่อเราโตขึ้นเราจะรู้ว่าเพราะเหตุใดเราถึงต้องใส่ถุงมือในการเข้าหาคน
ฉันคิดว่าเมื่อเราโตขึ้นสังคมจะทำให้เรารู้ว่า
บางทีการที่เราใส่ถุงมือเข้าหาคนอื่น มันมีหลายเหตุผล
บางคนอาจจะรังเกลียดคนนี้ บางคนอาจจะแกล้งเล่นละครตบตา
คนเรามีเหตุผลหลายอย่างในการที่จะเข้าหาใคร
เพราะบางคนการที่เขาใส่ถุงมือเข้าหาคนอื่น อาจจะเพราะว่าเขาต้องการป้องกันตัวเองไม่ให้รู้สึกเจ็บช้ำเหมือนเมื่อต่าง
ๆ ที่ผ่านมา ที่เขาพยายามจะจับมันด้วยความจริงใจ
แต่สุดท้ายเขาก็ไม่อาจจะสัมผัสถึงมือของอีกฝ่ายได้จริง ๆ
เพราะอีกฝ่ายได้ใส่ถุงมือตั้งแต่ครั้งแรกที่เขามาทักเขาแล้ว
สิ่งต่าง ๆ มันมีหลายเหตุผลแต่มันก็คงอยู่ที่เราเป็นคนตัดสินกันเอง แต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะใส่ถุงมือเข้าหาเราเสมอ
และมันก็เป็นไปไม่ได้เช่นกันที่ทุกคนจะไม่ใส่ถุงมือเข้าหาเรา