ชื่อบทกวี “ปรุงฝันปรับไฟ” ในกาพย์กลอนแห่งอารมณ์
“มิเหมือนแม้นอันใดเลย” โดย
ชมจันทร์
ตีความ
บทนี้เกี่ยวกับเส้นทางของอาชีพนักเขียน
เราจะเห็นว่าในโลกของวรรณกรรมเป็นโลกที่มีสีสันมากมาย มีหลายประเภท และความหลากหลายของเนื้อหาที่อยู่ในประเภทเดียวกันก็ตาม วรรณกรรมก็เปรียบกับดอกไม้ในสวนที่มีผีเสื้อมาดอมดม
ดอกนู้นที่ ดอกนี้ที หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ละดอกก็จะมีบางสิ่งที่เหมือนกันบ้างแต่ก็ไม่ทั้งหมด
ไม่มีดอกไหนที่สามารถเหมือนดอกอื่นได้อย่างร้อยเปอร์เซ็น
ดอกไม้แต่ละดอก ต่างมีช่วงเวลาเป็นของตัวเอง
บางดอกใช้เวลานานมากกว่าจะเป็นดอกที่สุขงอมสวยงานขึ้นมา แต่บางดอกก็เบ่งบานได้เร็วในระยะเวลาสั้น
ๆ ถึงแม้ช่วงเวลาของแต่ละดอกจะต่างกัน
แต่ก็ไม่มีดอกไหนที่สามารถจะอยู่ค้ำฟ้าไม่มีวันตาย หรือบางดอกอาจจะไม่ทันได้เกิดก็เหี่ยวเฉาตายไปแล้ว
ถึงแม้ว่าดอกไม้ทุกดอกจะมีวันตายก็ตาม แต่ทางที่จะทำให้เราสามารถมีตัวแทนขยายพันธุ์ออกไปได้ก็คือผีเสื้อ ผีเสื้อก็เปรียบเหมือนกับมนุษย์ ตามใดที่ยังมีผีเสื้อมาดอมดมดอกไม้ ดอกไม้ก็ยังสามารถแพร่พันธุ์ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แต่หากไม่มีผีเสื้อดอกไม้ก็คงไม่สามารถขยายพันธุ์ได้
ซึ่งดอกไม้และผีเสื้อก็ไม่ต่างจากนักเขียนและผู้อ่าน
ตราบใดที่ยังมีผู้อ่านก็ต้องมีผู้เขียน เพราะหากขาดผู้อ่านไป
ผู้เขียนก็ไม่สามารถอยู่ได้
ก็เหมือนดอกไม้เมื่อไม่มีผีเสื้อก็ต้องตายลงไป และดอกไม้จะเป็นดอกไม้ที่สมบูรณ์ไม่ได้หากไม่มีผีเสื้อมาดอมดมและผสมเกสรให้ได้ขยายพันธุ์ต่อไป
ดอกไม้ทุกดอกต่างมีค่าและความงามในตัวของมันเอง ถึงแม้เราอาจจะไม่ใช่ดอกไม้ที่สวยที่สุด งามที่สุด เบ่งบานมากที่สุดก็ตาม แต่มันก็มีค่าและสวยที่สุดในแบบที่เราเป็นก็พอ