วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ตีความ ชื่อบทกวี “ก่อนฝน” ในกวีนิพนธ์ “ครอบครัวดวงตะวัน” โดย ศิวกานท์ ปทุมสูติ



ชื่อบทกวี “ก่อนฝน” ในกวีนิพนธ์ ครอบครัวดวงตะวัน” โดย ศิวกานท์  ปทุมสูติ

ตีความ        

                      อ่านบทกวีบทนี้แล้วนึกถึงตัวเองในวัยเด็กเลย  ตอนเด็ก ๆ คุณเคยวาดรูปก้อนเมฆกันใช่ไหมคะ  มองฟ้าแล้วก็วาดตามรูปเมฆ  วาดแล้วก็ลบ ลบแล้วก็วาดใหม่  เพราะเมฆมันไม่เคยอยู่เฉย ๆ ให้เราวาดเสร็จเลย  เงยหน้ามาทีไร มันก็เปลี่ยนไปอีกแล้ว  ทุกเอาวุ่นเหมือนกันในบางที

                      แต่ว่าการที่เราวาดรูปเมฆที่ลอยไปลอยมาอยู่บนนั้นมันกลับทำให้เรามีความสุขและสนุกอยู่ไม่น้อย  พอวาดไม่ได้เราก็วิ่งไล่ตามเมฆแทน วิ่งตามเพื่อดูว่ามันจะหนีเราไปไหนได้   ทำเอาเหนื่อยไม่น้อยที่ต้องไล่ตาม  เพราะเมฆมีหลายก้อนเราก็เลยเปลี่ยนไป ๆ มา เดี๋ยวจับก้อนนู้นเดี๋ยวตามก้อนนี้

                      ซึ่งการได้ทำสิ่งเหล่านี้มันมีความสุขไม่น้อยเลย   มันทั้งมีความสุขและสนุกในแบบที่เด็ก ๆ เราเคยทำกัน  ความสุขนี้มันเป็นความสุขที่ออกมาจากใจของเรา  โดยไม่มีการปรุงแต่งหรือความคิดซับซ้อนอะไร   มันคือความสุขความพอใจกับสิ่งรอบตัวที่เรามี  ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถครอบครองก้อนเมฆก้อนไหนได้เลย  แต่เราก็ชอบที่เมฆมันลอยไปลอยมาในบนฟ้าที่กว้างใหญ่และสวยงาม  

                      ฉันคิดว่า  ความสุขในวันเด็กนั้นเป็นความสุขที่เรียบง่าย  ไม่ต้องมีองค์ประกอบอะไรมากมายในชีวิตเหมือนตอนเราโต  ตอนเด็ก ๆ แค่ไล่จับก้อนเมฆเราก็มีความสุขและสนุกที่สุดแล้ว  แต่เมื่อเราเติบโตขึ้นมาเรากลับไม่รู้สึกมีความสุขหรือสนุกเท่าตอนนั้นเลย   ทั้งที่เรามีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากกว่าสมัยก่อนมาก อยากรู้อะไรก็สามารถกดค้นหาตามแหล่งข้อมูลได้ทันที  อยากสนุกก็แค่เล่นเกมในโทรศัพท์ไม่ต้องไปวิ่งเล่นเหมือนตอนเด็ก ๆ ก็สนุกได้   

                      แต่ฉันกลับคิดว่า การที่เราไม่มีความสุขและสนุกเท่ากับตอนเด็กนั้น อาจจะเพราะเราต่างต้องการสิ่งต่าง ๆ  เข้ามาในชีวิตมากยิ่งขึ้น   ทั้งเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เริ่มเข้ามาในชีวิต  เรากลับรู้สึกต้องการสิ่งต่าง ๆ เพื่อมาเติมเต็มให้ตัวเองมีความสุขอยู่ตลอดเวลา  แต่เรากลับลืมมองย้อนกลับไปว่า ความสุขมันอยู่ที่ใจของเราที่พร้อมจะเปิดรับสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวมากกว่าการสนใจแค่สิ่งที่เราคิดว่าสามารถทำให้เรามีความสุขได้เพียงชั่วครู่ชั่วยาม