วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ตีความ ชื่อบทกวี “สรรพชีพ” ในกาพย์กลอนแห่งอารมณ์ “มิเหมือนแม้นอันใดเลย” โดย ชมจันทร์



ชื่อบทกวี “สรรพชีพ” ในกาพย์กลอนแห่งอารมณ์ มิเหมือนแม้นอันใดเลย” โดย ชมจันทร์

ตีความ

                ในบทนี้เราจะเห็นสิ่งมีชีวิตของเหล่าสัตว์นานาพันธุ์ที่แสดงอาการต่าง ๆ ให้เห็น  บ้างก็ยิ้มแย้ม บ้างก็เจ้าเล่ห์ บ้างก็ดุร้าย  บางชนิดก็มีพิษและไม่มีพิษตามแต่สายพันธุ์

                ถ้าดูโดยรวมแล้วชีวิตของสัตว์เหล่านี้ไม่ได้ต่างจากมนุษย์เท่าไหร่  สัตว์ใช้สัญชาตญาณในการดำเนินชีวิต  แต่มนุษย์นั้นสามารถใช้ได้ทั้งความรู้และสัญชาตญาณในการดำเนินชีวิต  และคนส่วนใหญ่เลือกที่จะใช้สัญชาตญาณมากกว่าความรู้เสียอีก  เช่นการที่เรารับรู้ถึงความอันตรายที่กำลังเข้ามา  เราเพียงแค่รู้สึกแต่เหตุการณ์มันยังไม่ทันเกิด  และเราก็เลือกเชื่อว่ามันมีบางสิ่งที่อันตรายอยู่แถวนี้แต่เรายังไม่สามารถคิดวิเคราะห์ได้ว่ามันจะเกิดอะไรต่อไปหลังจากนี้

                ฉันคิดว่าอีกสิ่งหนึ่งที่เราต่างจากสัตว์ก็คือการจำแนกชนิด   สัตว์ชนิดต่าง ๆ เราสามารถแยกได้ว่าสิ่งไหนเป็นมิตรหรือเป็นศัตรู   แต่หากว่ากับมนุษย์ด้วยกันเองเราไม่สามารถบอกได้เลยว่าใครคือมิตรหรือศัตรู   สมมุติว่าเราเจองู  เราสามารถรู้ได้เลยว่ามันต้องทำร้ายเราเพราะมันเป็นตัวอันตราย   แต่กับมนุษย์ด้วยกันเอง  คุณสามารถบอกได้ไหมว่าคนที่คุณคบเป็นเพื่อนอยู่เขาเป็นคนดีจริงและไม่มีวันทำร้ายคุณ

                แต่ว่าโลกนี้ก็ยังไม่มีอะไรที่แน่นอนเสมอไป เพราะบางทีมิตรอาจจะกลายเป็นศัตรู หรือว่าศัตรูอาจจะกลายเป็นมิตร  เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าใครคือมิตรแท้หรือมิตรเทียม   และสิ่งหนึ่งที่คนกับสัตว์มีเหมือนกันก็คือ การให้อภัย   ถ้าถามว่าสัตว์มันมีความคิดเรื่องการให้อภัยได้ด้วยหรือ   ฉันของตอบว่าฉันมันไม่มีความคิดก็จริง แต่มันมีสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดสูงมาก   และมันก็พร้อมจะเชื่อใจกับสิ่งที่มันรู้สึกว่านั้นคือมิตร ที่ไม่ทำร้ายมัน เช่นการที่คุณมีสัตว์เลี้ยงแล้วคุณตีมัน  มันกลัวมันเจ็บ  แต่หากว่าคุณเดินเข้าไปลูบหัวมัน  ความกลัวมันก็จะคลายลงและกลับมาเป็นสัตว์เลี้ยงของคุณเหมือนเดิมและภัคดีต่อคุณเหมือนเดิม  ต่อให้คุณจะทำร้ายมันอีกในวันข้างหน้าก็ตาม  แบบนี้เรียกว่าการให้อภัยของสัตว์เลี้ยงได้ไหมล่ะ  คนเราก็ไม่ต่างกัน  การที่เราจะอยู่ร่วมกับใครได้ ไม่ว่าเราจะเคยมีเรื่องอะไรกันมาก็ตาม  ทุกอย่างที่เคยบาดหมางมันจะจบลงได้ทันที ถ้าหากว่าเราและเขาให้อภัยซึ่งกันและกัน