วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ตีความ ชื่อบทกวี “ในสวนโลก” ในกาพย์กลอนแห่งอารมณ์ “มิเหมือนแม้นอันใดเลย” โดย ชมจันทร์



ชื่อบทกวี “ในสวนโลก” ในกาพย์กลอนแห่งอารมณ์ มิเหมือนแม้นอันใดเลย” โดย ชมจันทร์

ตีความ
                
           ในบทนี้เราจะได้พบชื่อดอกไม้ต่าง ๆ นานาชนิดไม่ว่าจะเป็น  ดอกมะลิ ดอกบัว ดอกกล้วยไม้ ดอกกุหลาบ ดอกชบา ดอกพวงชมพู ดอกทานตะวัน ดอกดาวเรือง และอีกหลาย ๆ ชนิดอีกมากมายที่ผู้ประพันธ์ได้เอ่ยถึง
                
          คุณอาจจะงงทำไมอยู่ ๆ ถึงพูดถึงดอกไม้ขึ้นมาดอกไม้ที่กล่าวมาทั้งหมดก็เปรียบเสมือนมนุษย์ทั่วไปที่มีหลายนิสัยใจคอ  รวมถึงรูปร่างหน้าตา ความสวยงาม และความชอบของแต่ละคน   คุณอาจจะเคยเห็นว่าดอกไม้บางดอกก็สามารถเติบโตในสภาพแวดล้อมที่มีดอกไม้ชนิดเดียวกันอยู่ด้วยกัน  บางดอกอาจจะไม่สามารถเติบโตเมื่ออยู่ในกลุ่มชนิดเดียวกันได้   บางกลุ่มก็ต้องมีพื้นที่ของตัวเองโดยเฉพาะ แต่ก็มีบางชนิดที่เติบโตในที่ของสายพันธุ์อื่นได้ดีกว่าอยู่ในสายพันธุ์เดียวกัน  
               
          ฉันคิดว่า มนุษย์เราก็เช่นกัน  บางคนเลือกที่จะอยู่กับคนที่เหมือนกันเพราะเข้ากันได้ดี  เขาใจกันมากกว่า  บางคนเลือกที่จะอยู่กับคนที่ต่างกันเพราะการมองอะไรที่ต่างกันมันก็ทำให้เราเข้าใจอะไรได้มากกว่า  หรือบางคนเลือกที่จะอยู่ในพื้นที่ของตัวเองมากกว่าจะเข้าใกล้ใครมากเกินความจำเป็น   ก็คงไม่ต่างอะไรกับดอกไม้ ไม่ว่าจะอยู่แบบไหน ก็ยังมีความสวยสดงดงามในแบบของมันเอง    ทุกอย่างบนโลกต่างมีขอบเขตของตัวเองไม่ว่าจะคนหรืออะไรก็ตาม  แต่ว่าเราทุกคนไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลกเสมอไป  ลองมองไปรอบ ๆ ต่อให้เราจะไม่รู้จักใครในที่ตรงนั้นก็ตาม  ตราบใดที่เรายังเห็นผู้คนเหล่านั้นเดินรายล้อมอยู่รอบ ๆ ตัวเรามันก็คงไม่ใช่การอยู่คนเดียวเสมอไป  แต่ที่เราคิดว่าเราอยู่คนเดียวอาจจะเพราะโลกนี้มันกว้างไปเกินกว่าเราจะรู้จักคนทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรา