ชื่อบทกวี “ในสวนโลก” ในกาพย์กลอนแห่งอารมณ์
“มิเหมือนแม้นอันใดเลย” โดย
ชมจันทร์
ตีความ
ในบทนี้เราจะได้พบชื่อดอกไม้ต่าง
ๆ นานาชนิดไม่ว่าจะเป็น ดอกมะลิ ดอกบัว
ดอกกล้วยไม้ ดอกกุหลาบ ดอกชบา ดอกพวงชมพู ดอกทานตะวัน ดอกดาวเรือง และอีกหลาย ๆ
ชนิดอีกมากมายที่ผู้ประพันธ์ได้เอ่ยถึง
คุณอาจจะงงทำไมอยู่
ๆ ถึงพูดถึงดอกไม้ขึ้นมาดอกไม้ที่กล่าวมาทั้งหมดก็เปรียบเสมือนมนุษย์ทั่วไปที่มีหลายนิสัยใจคอ รวมถึงรูปร่างหน้าตา ความสวยงาม
และความชอบของแต่ละคน
คุณอาจจะเคยเห็นว่าดอกไม้บางดอกก็สามารถเติบโตในสภาพแวดล้อมที่มีดอกไม้ชนิดเดียวกันอยู่ด้วยกัน บางดอกอาจจะไม่สามารถเติบโตเมื่ออยู่ในกลุ่มชนิดเดียวกันได้ บางกลุ่มก็ต้องมีพื้นที่ของตัวเองโดยเฉพาะ
แต่ก็มีบางชนิดที่เติบโตในที่ของสายพันธุ์อื่นได้ดีกว่าอยู่ในสายพันธุ์เดียวกัน
ฉันคิดว่า มนุษย์เราก็เช่นกัน บางคนเลือกที่จะอยู่กับคนที่เหมือนกันเพราะเข้ากันได้ดี เขาใจกันมากกว่า
บางคนเลือกที่จะอยู่กับคนที่ต่างกันเพราะการมองอะไรที่ต่างกันมันก็ทำให้เราเข้าใจอะไรได้มากกว่า
หรือบางคนเลือกที่จะอยู่ในพื้นที่ของตัวเองมากกว่าจะเข้าใกล้ใครมากเกินความจำเป็น ก็คงไม่ต่างอะไรกับดอกไม้ ไม่ว่าจะอยู่แบบไหน
ก็ยังมีความสวยสดงดงามในแบบของมันเอง
ทุกอย่างบนโลกต่างมีขอบเขตของตัวเองไม่ว่าจะคนหรืออะไรก็ตาม แต่ว่าเราทุกคนไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลกเสมอไป ลองมองไปรอบ ๆ
ต่อให้เราจะไม่รู้จักใครในที่ตรงนั้นก็ตาม
ตราบใดที่เรายังเห็นผู้คนเหล่านั้นเดินรายล้อมอยู่รอบ ๆ
ตัวเรามันก็คงไม่ใช่การอยู่คนเดียวเสมอไป
แต่ที่เราคิดว่าเราอยู่คนเดียวอาจจะเพราะโลกนี้มันกว้างไปเกินกว่าเราจะรู้จักคนทุกคนที่อยู่รอบ
ๆ ตัวเรา