วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2562

ตีความ ชื่อบทกวี “กวาดบ้าน” ในกวีนิพนธ์ “ครอบครัวดวงตะวัน” โดย ศิวกานท์ ปทุมสูติ




ชื่อบทกวี กวาดบ้านในกวีนิพนธ์ ครอบครัวดวงตะวันโดย ศิวกานท์  ปทุมสูติ

ตีความ

                ในบทนี้ฉันคิดว่า บทนี้มันเป็นบทที่มีความหมายในแอบแฝงอยู่ เคยได้ยินกันใช่ไหมคะ ว่าบ้าน ก็เปรียบเสมือนเจ้าของ บ้านเป็นอย่างไร เจ้าของก็เป็นแบบนั้น มันคือการสะท้อนตัวตนของเราในอีกมุมหนึ่ง

                ซึ่งในบทนี้ก็มีการพูดถึงเรื่องบ้าน บ้านหลังนี้ก็ไม่ต่างจากบ้านหลังอื่น ที่มีเหล่าสัตว์ที่ไม่ได้รับเชิญให้มาอยู่ มาแอบออาศัยด้วย เราต่างก็เคยหงุดหงิดกับการกวาดบ้านที่ต้องพบมูลของสัตว์เหล่านั้น บางคนก็อาจจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติ เพราะอย่างไรก็ต้องกวาด ต้องทำความสะอาดอยู่ดี แต่บางคนอาจจะไม่รู้สึกแบบนั้น บางคนอาจจะรู้สึกหงุดหงิดและเห็นมันเป็นเรื่องใหญ่มาก ที่เวลากวาดบ้านแต่ละที่ต้องเจอสิ่งเหล่านี้อยู่ในบ้าน ตามซอกต่าง ๆ ของบ้าน จนถึงขั้นอยากจะกำจัดมันให้พ้น ๆ ไปจากบ้าน

                ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องผิด ที่เรารู้สึกอย่างไรกับสัตว์เหล่านั้น แต่สิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกเหมือนกันก็คือ เรารักบ้านของเรา เราหวงพื้นที่ของเรา ไม่มีใครที่อยากให้บ้านสกปรกหรือแขกไม่ได้รับเชิญมาอาศัยอยู่ที่บ้านของเรา และการที่เรารู้สึกแบบไหน มันก็คือสิ่งที่สะท้อนจิตใจของเราด้วยเช่นกัน
          
             ถ้าจะลองเปรียบว่าบ้านก็คือจิตใจของเรา เมื่อมีแมลงมาอาศัยในบ้านของเรา เรารู้สึกหงุดหงิด โมโห โกรธ อยากจะฆ่ามันให้ตาย ก็เท่ากับว่าเราเป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง มีเรื่องมากระทบจิตใจหรือมีใครทำให้รู้สึกไม่พอใจ เราก็พร้อมที่จะทำร้ายเขาทันทีด้วยวิธีที่รุนแรงที่สุด
         
           แต่ถ้าเรารู้สึกว่า มันเป็นเรื่องปกติ เรื่องธรรมชาติ สิ่งที่มันทำไว้ก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ดีซะอีกเพราะมีมันอยู่ในบ้าน เราถึงได้ไม่เหงา ไม่ต้องกวาดบ้านไปกับความว่างเปล่าของเม็ดฝุ่นที่เรามองไม่เห็น แต่เรายังได้เห็นมูลหนู มูลจิ้งจก ใยแมงมุม ทำให้มีสีสันในการกวาด และเหมือนเป็นการเตือนไปในตัวด้วยว่า บ้านต้องกวาดแล้วนะ มูลหนูเยอะแล้ว มูลจิ้งจกเยอะแล้ว ใยแมงมุมเต็มเลย ซึ่งมันก็จะบ่งบอกว่าเราเป็นคนคิดในแง่บวก ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไรหากมีเรื่องอะไรเข้ามาเราก็พร้อมจะเปลี่ยนจากความโกรธ ความโมโห ความอาฆาต มาเป็นความสุขของชีวิตได้เสมอ หามุมมองในการแก้ปัญหาในด้านบวกมากกว่าด้านลบ หากมีเรื่องมากระทบจิตใจ
         
           สุดท้ายนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่คุณเป็นผู้กำหนด เพราะบางอย่างก็มีหลายด้านที่ต้องมอง มากกว่าเพียงแค่หนึ่งด้าน หรือสองด้านเท่านั้น