วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

วิเคราะห์เรื่องปริมณฑลแห่งรักในประเด็นที่แตกต่าง


วิเคราะห์เรื่องปริมณฑลแห่งรักในประเด็นที่ตากต่าง
          เรื่องปริมณฑลแห่งรักนั้นเป็นวรรณกรรมเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องราวความรักในชีวิตของตัวละครเอกที่ชื่อว่า สุดคะเนหรือหวนคะนึง  จุดเริ่มต้นของสุดคะเนคือ การที่เขียนจดหมายลงไปในคอลัมน์นิตยาสารเล่มหนึ่งทำให้เธอได้ติดต่อกับผู้หญิงคนหนึ่งผ่านจดหมาย   สุดคะเนเป็นสาวชาวเหนือเมื่อได้เขียนจดหมายติดต่อกับแพ็ทซึ่งเป็นสาวกรุงเทพ ฯ และมีรสนิยมเดียวกันคือความชอบผู้หญิง  แพ็ทจริงเดินทางจากกรุงเทพฯ มารับคะเนไปอยู่ด้วย แพ็ทบอกกับพ่อและแม่ของคะเนว่าจะเลี้ยงดูแบบน้องสาวคนหนึ่ง   ถ้าคะเนอยากกลับบ้านก็จะซื้อตั๋วให้กลับ   พ่อและแม่ของคะเนดีใจที่คะเนมีคนดี ๆ มาเอ็นดู จึงไม่ได้ห้ามปราบที่ลูกสาวจะไปอยู่ที่กรุงเทพฯ  แพ็ทกับคะเนก็ได้มีความลึกซึ้งสัมพันธ์กัน   สุดคะเนมีความเชื่อว่าคนที่รักกันเท่านั้นถึงจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งได้   แต่เมื่อสุดคะเนได้มาอยู่กับแพ็ทก็ทำให้ความเชื่อนั้นหายไป  ในขณะที่สุดคะเนรักแพ็ทแต่แพ็ทกับบอกว่ามันไม่ใช่ความรัก   รักกับเซ็กซ์มันคนละอย่างกันถึงไม่รักก็มีเซ็กซ์ได้  แพ็ทจึงพาสุดคะเนไปพิสูจน์ว่าสิ่งที่แพ็ทบอกนั้นเป็นคนความจริง   โดยพาคะเนไปเล่นเกมกับเพื่อแพ็ทซึ่งมีเกมจับฉลากในกล่องแล้วจะได้ของขวัญสุดพิเศษของขวัญชิ้นนั้นก็คือตัวของสุดคะเน   คืนนั้นสุดคะเนได้มีความสัมพันธ์กับนุจรีเพื่อนของแพ็ท   และต่อมาก็ได้มีความสัมพันธ์กับเอ๋ซึ่งเป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งของแพ็ท
          การมาเรียนรู้ในกรุงเทพฯครั้งนี้สิ่งที่แพ็ทได้สอนคะเนนั้นและคะเนยังได้ความรู้เพิ่มขึ้นจากการอ่านหนังสือในบ้านของแพ็ท ก่อนจากกันเอ๋ได้ให้หนังสือกับคะเนคือเรื่องประชุมโครงโลกนิติพร้อมเขียนข้อความไว้ว่า (“อ่านดีๆ ในบทสอนหญิง   แล้วจะเข้าใจอะไรๆมากขึ้น รัก/พี่เอ๋”) (หน้า 98)
          คะเนไม่เชื่อในสิ่งที่แพ็ทพูดสุดท้ายคะเนก็ตัดสินใจที่จะกลับบ้านของตัวเอง   เพราะความบอกช้ำกับความรู้สึกที่เหมือนเป็นของเล่นที่เอาไว้แก้เหงา   เมื่อสุดคะเนกลับบ้านก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นหวนคะนึงเนื่องจากสุดคะเนต้องการลืมความหลังและเริ่มต้นใหม่   หวนคะนึงได้ติดต่อกันผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งชื่อว่าดาว   ดาวทำให้หวนคะนึงนั้นมีความรู้สึกว่าความรักที่ดาวมอบให้นั้นไม่จำเป็นต้องมีเรื่องเซ็กซ์   เป็นความรักที่แท้จริงแต่แล้วหวนคะนึงก็ต้องผิดหวังเรื่องความรักอีก เมื่อดาวต้องแต่งงานกับผู้ชายเพราะเป็นสิ่งที่สังคมยอมรับ 
          (   “เราเป็นผู้หญิง   วันหนึ่งก็ต้องแต่งงานไปกับผู้ชาย   เป็นธรรมชาติ...
          หวนคะนึงอยากเถียงว่า  การรักผู้หญิงก็เป็นเรื่องธรรมดาเช่นกัน เหมือนพี่แพ็ท พี่เอ๋ พี่นุจรี และอีกหลาย ๆ คนที่เคยได้รู้จัก
          แต่เหตุผลของอีกฝ่ายทำให้ยอมจำนน
          ถึงสิ่งเหล่านี้จะเกิดจากใจแท้ ๆ ของเรา เหมือนที่เรารักกัน ใฝ่หากัน แต่ทุกวันนี้สังคมก็ยังไม่ยอมรับ   พี่ยอมรับว่าแคร์คนส่วนใหญ่ คุณพ่อคุณแม่ก็เป็นผู้มีพระคุณ ถ้าหากความรักของเราเป็นความสะอาดบริสุทธิ์   เราก็น่าจะให้ความบริสุทธิ์นี้คงอยู่ตลอดไป...
          เด็กสาวอยากจะคิดว่า เธอไม่เข้าใจเนื้อความในจดหมายเหล่านี้อย่างแท้จริง ไม่เห็นด้วยหรือคล้อยตามสิ่งที่ พี่ดาว’ สื่อสารตลอดมาคือความจริงใจ
          พี่ดาวสอนให้หวนคะนึงรู้จักรักที่ละเอียด ละเมียดละไม ไม่เคยแม้แต่จะเอ่ยถึง เซ็กซ์’ ไม่ถามเลยสักคำว่าอยากมีอะไรกันไหม ไม่เหมือนพี่แพ็ท พี่เอ๋ และพี่นุจรี   ที่คำว่ารักห่างไหลจากวิถีขีวิตเหลือคณา   )
                                                                                                (หน้า 140)
          การผิดหวังในครั้งนี้ทำให้คะนึงนั้นต้องการที่จะเลิกเป็นทอม  อยากลองมีอะไรกับผู้ชายเหมือนกับที่พี่ดาวเลือกจะไปแต่งงานกับผู้ชายจะมีความสุขมากมายเพียงใด  และคะนึงตั้งใจไว้ว่าจะไม่รักใครอีก   คะนึงนั้นได้ตัดสินใจที่จะมีความสัมพันธ์กับลมซึ่งเป็นหนุ่มศิลปินที่คะนึงมาติดต่อให้ไปช่วยบรรยายที่งานโรงเรียน   ศิลปินหนุ่มผู้นี้มีความเชื่อมั่นว่า  เรื่องเซ็กซ์นั้นสามารถมีความสุขได้จากการร่วมเพศระหว่างชายหญิงคือสิ่งที่สุดยอดที่สุดแล้ว   ผู้หญิงจะได้รับความพึงพอใจได้มากที่สุดเมื่อได้ร่วมเพศกับผู้ชาย
          (   เสียงผู้หญิงดังลอดมาจากที่ไหนสักแห่ง  หวนคะนึงเดินผ่านซอยแคบ ๆ ที่อ้อมหลังร้านไปสู่ห้องน้ำ
มีเสียงขลุกขลักจากห้องมืดสนิท ไม่สังเกตแทบไม่รู้ว่ามีอยู่ เด็กสาวจวนจะผ่านไปแล้ว ถ้าไม่เพียงจะได้ยินเสียงที่พูด
หึงผมหรือวันนี้...เห็นตาพี่ตอนมองคะนึง
ทำไม ห่วงนักหรือ ไม่หึงได้ไง  คุณน่ะร้ายจะตาย
อย่าห่วงเลย”   เสียงหัวเราะเบา ๆ เด็กนั่นเป็นทอม
ทอมก็คือผู้หญิงอยู่ดี   แล้วคุณน่ะ ลองไม่ใช่เพศเดียวกันละก็...
ทำไม...เสียงชายหนุ่มพร่าต่ำลง ไม่ใช่เพศเดียวกัน   แล้วผมจะทำไม
คุณก็จะทำเหมือนที่ทำกับพี่ตอนนี้
หวนคะนึงหยุดเดิน ขาแข็ง ชายหนุ่มกระซิบเสียงต่ำ หากในความมืด ท่ามกลางเสียงดนตรีลอยมา  เสียงจากห้องลับกลับชัดเจนในโสตประสาท
พูดอีก...ผมชอบฟังพี่พูด
พี่รู้ว่า...คุณ...คุณชอบทำกับผู้หญิงทุกคนแบบนี้
แล้วชอบไหมละ!”
เบา ๆ ...เดี๋ยวใครได้ยินนะคะ...เบา ๆ
ดีเสียอีก   ผมอยากให้คนได้ยิน
เสียงที่หวนคะนึงฟังอยู่เต็มไปด้วยอารมณ์เหลือคณา
สามีพี่ก็ไม่อยู่  ใคร ๆ ในร้านก็รู้ว่าเรามีอะไรกัน กลัวจะไม่มีใครกล้าฟังก็เท่านั้น...ถ้าเป็นไปได้  ผมอยากให้เด็กคนนั้นมาได้ยินด้วยซ้ำ
ทำไมคะ...
เผื่อเขาจะอยากเลิกเป็นทอม...เผื่อได้มีความสุขแบบพี่ตอนนี้...แบบนี้!”)
                                                                             (หน้า 136-137)
หวนคะนึงตัดสินใจที่จะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลม   จะอยู่กับลมจนกว่าจะถึงกำหนดการจัดงานโรงเรียน   เหตุที่คะนึงตัดสินใจเลือกทางนี้ก็เพราะว่า  คะนึงอยากรู้การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายมีความสุขจริงหรือ จึงทำให้ดาวเลือกที่จะแต่งงานกับผู้ชาย   แต่แล้วการตัดสินใจครั้งนี้ทำให้คะนึงเกิดความผิดหวัง   การร่วมเพศกับผู้ชายไม่ได้มีความสุขเหมือนในวรรณกรรมที่เคยอ่าน  เหมือนจดหมายของดาว และเหมือนอย่างที่ลมบอก
(   “ฉันมีอะไรจะบอกคุณอย่าง
คุณไม่เคยนอนกับผู้ชาย ผมรู้
หวนคะนึงเงียบนิ่ง แต่เด็กสาวไม่คิดว่าเขาเองก็ไม่ทราบ การไม่เคยนอนกับผู้ชาย ไม่ได้หมายถึงไม่เคยมีเซ็กซ์
อีกทีหนึ่ง  เขาคิดว่าเซ็กซ์อื่นใดไม่มีทางเทียบเทียมจากผู้ชาย...อย่างเขา
หวนคะนึงนอนลงเมื่อเขาผลักเธอลงไป  ฝนตกและตก  เสียงสาดซัดลงสู่หลังคา  มีน้ำรั่วด้วยที่ไหนสักแห่ง   เธอได้ยินเสียงสะท้อนแตกต่างจากภายนอก  มีคนกำลังเคลื่อนไหวบนร่างกายเธอ
เด็กสาวหลับตา พยายามจดจ่ออยู่กับอารมณ์ตนเอง   ความหวังถึงการเปลี่ยนแปลงในห้วงลึกสุดใจ   ใบหน้าผู้หญิงหลายคนผ่านมาในความนึกคิด   และใครคนนั้นที่แต่งงานไปแล้ว
โอ้ย! ฉันเจ็บ! ”
เด็กสาวสำลัก   น้ำตาพรูเหมือนตาน้ำทลาย  ความเจ็บปวดมาจากไหนกัน   เบียดเสียดแทรกแซงในร่างกายเธอ   ยื่นมือออกไปผลักแผ่นอกเบื้องหน้า
หยุดหยุดก่อนได้ไหม ฉันเจ็บ
ศิลปินหนุ่มชะงักชั่วคราว  หายใจหอบ
เดี๋ยวก็หาย
เขาก้มลง   ใช้ริมฝีปากประทับบนหน้าผาก   เด็กสาวยังดิ้นรน ชายหนุ่มมองเธอด้วยแววตารำคาญอีกครั้ง   หากครู่เดียวรอยยิ้มพึงใจก็มาแทนที่
วิเศษจริง ๆ ” เขาพูด
อดทนนะคนดี  ผมจะทำให้คุณหายเจ็บ
ไม่ไม่!”
หวนคะนึงมองใบหน้าที่อยู่ห่างไม่กี่เซนติเมตร
ฉันขอเวลา...ขอเวลาสักพัก
ศิลปินหนุ่มยังหัวเราะ   ใบหน้าเปลี่ยนไป  ละม้ายเจ็บปวด  หากสุขสม
ไม่มีใครหยุดได้หรอก เด็กจ๋า
ฉัน...ฉันเจ็บจริง ๆ นะ
เด็กสาวอ้อนวอน   เริ่มรู้แล้วว่าไร้ผลโดยสิ้นเชิง   ชายหนุ่มยังคงประกอบกามกิจ ไม่แยแสว่าเธอจะรู้สึกอย่างไร
นี่หรือคือเพศสัมพันธ์ระหว่างชาย-หญิง   หวนคะนึงคิดอย่างรางเลือนไม่มีสิ่งใดสร้างความรื่นรมย์ หรือเพราะเป็นศิลปินคนนี้  ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนจะเป็นอย่างนี้ หรือผู้ชายมีสไตล์อย่างนี้ ความคิดเด็กสาวสับสนวกวน
หวนคะนึงหยุดร้องไห้ แต่น้ำตายังไหลไม่ขาดสาย   ร่างกายโยกโยนเหมือนเรือในทะเล อับปางด้วยคลื่นลมอีกแล้ว
พายุโหมกระหน่ำสุดควบคุมได้  ชายหนุ่มเปล่งเสียงดังราวใกล้วาระสุดท้ายของชีวิต เด็กสาวปล่อยแขนขาแข็งทื่อ
ฉันกับเขา
เราต่างคนต่างได้
ต่างเพียงเขาไปสู่จุดสูงสุด
แต่ฉันตกลงมา
ตกลงมา)                                                                   (หน้า 157-158)
ลมมีความหลงตัวเอง  หลงในอำนาจของตัวเอง  เพราะเขามีองคชาติที่บ่งบอกถึงความเป็นชาย  องคชาติเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะควบคุมผู้หญิงได้  สิ่งนี้จะทำให้ผู้หญิงนั้นไปถึงความสุขสุดยอดได้ แต่หวนคะนึงนั้นได้ลดทอนอำนาจของลมลง   ทำให้ความเชื่อมั่นและมั่นใจของลมได้สั่นคลอนลง  หวงคะนึงแสดงให้ลมเห็นได้ว่าถึงไม่ต้องมีองคชาติก็สามารถทำให้ถึงจุดสุดยอดได้   โดยการคะนึงนั่งช่วยตัวเองต่อหน้าลม   เธอได้เสร็จด้วยตนเองโดยไม่ต้องมีองคชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง   ต่างจากการมีเพศสัมพันธ์กับลมที่ไม่เคยทำให้คะนึงเสร็จได้อย่างที่คะนึงช่วยตัวเอง   จึงทำให้เกิดการกลับกันของอำนาจ   การเป็นว่าคะนึงนั้นเป็นผู้ควบคุมอำนาจแทนลม
(เด็กสาวคว้าบางอย่างจากมุมห้อง เข็มขัดผ้าเนื้อนิ่ม กลิ่นสาปคุขึ้นแผ่วเบา หวนคะนึงสลัดข้อมือ กระตุกจนปลายผ้าเคลื่อนไหวราวมีชีวิต ลมอ้าปากค้าง เพริดไปกับห้วงจินตนาการ
ขอมือค่ะ
หวนคะนึงขยับเข้าจนชิด หนึ่งนาที แขนชายหนุ่มถูกไขว้ติดหลัง รัดแน่น เด็กสาวผลักเขาไปสุดมุมห้องในท่ายืนไม่มั่นคงนัก เริ่มต้นรุกเร้า
 ลมครางเสียงดัง หวนคะนึงประจงจูบแผ่นท้องราบเรียบ ปลายลิ้นเซาะซอนอ่อนเบา แตะลึกในแอ่งสะดือ ถอนออกรวดเร็ว ขบเม้มเข้าที่หัวนมกระจิริด
เด็กสาวหลับตา ใช้เพียงริมฝีปากกับฝ่ามือ ละเว้นบางที่บนเรือนกายชายหนุ่มอย่างจงใจ ในห้วงคำนึง หวนคะนึงคิดถึงผู้หญิงหลายคนในชีวิต
แค่คิดว่านี่คือเรือนกายมนุษย์คนหนึ่ง เครื่องเพศก็แค่เครื่องเพศ เธอควรผ่านไปได้ ไม่ยากนัก
ศิลปินหนุ่มร้องครางโอดโอย เป็นเกมพิสวาสซึ่งไม่คิดว่าจะได้พบ ผิวเนื้อเด็กสาวนุ่มนิ่ม แต่ไร้ความสามารถไขว่คว้า เธอเป็นฝ่ายกระทำตามแต่ชอบใจ แต่นั่นก็ดีที่สุด แต่เวลาผ่านไป ยิ่งทรมานทุกขณะ
คะนึง ปล่อยผมเดี๋ยวนี้
ไม่ค่ะ
เด็กสาวตอบชัด ลากปลายนิ้วผ่านต้นขา ซอกซอนโค้งอ้อม แตะสะโพกชายหนุ่ม รับรู้ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ จมูกสัมผัสกลิ่นคลุ้งคาว
ลมเคลื่อนไหวแรงขึ้น ต้องการพ้นจากพันธนาการ เด็กสาวกลับเร้าเร่งและ...
ลมหอบหายใจ จนใจจะขาดห้วง เมื่อคะนึงถอยห่างออกไป ทิ้งเขานั่งกลางห้อง มือยังไขว้หลัง
เด็กสาวเอนหลังพิงผนังกระท่อม แสงลอดแต่น้อย หากสิ่งเปิดเผยต่อสายตากระจะกระจ่าง ใจศิลปินยิ่งกว่ารัวกลอง
คะนึง!”
ลมดิ้นรนมากขึ้น แต่ไร้ผลอย่างสิ้นเชิง เด็กสาวสอดสลักเข็มขัดแน่นหนา ชายหนุ่มเบิกตากว้าง ริมฝีปากแห้งผาก ความร้อนปะทุอยู่ในร่างกาย
เด็กสาวกำลังนั่งชันขา เปิดเข่านิด ๆ ปลายนิ้วที่ก่อนหน้านั้นสำรวจทั่วเรือนกายของเขากลับแทรกซุกเข้าไปในที่ของเธอ อย่างอิสระ จงใจ เด็กสาวหลับตาลง ทอดทิ้งเขาไปสู่โลกเร้นลับของเธอ
...หวนคะนึงทำกับเขา ไม่เหมือนที่เขาเคยทำกับเธอ แต่สร้างความเจ็บปวดสุดพรรณนา ชั่วขณะหนึ่งเด็กสาวก็ลืมตาขึ้น มองเขาด้วยรอยยิ้มระยับ ปลายนิ้วยังไม่หยุดเคลื่อนไหว
ลมอยากกระชากร่างนั้นหลุดลอยจากพื้น ตบตีทำโทษ หรือไม่...ก็เอาคืนจนแสนสาหัส อีกนิดเดียวเท่านั้น มือของเขาอาจเป็นอิสระ
แต่ช้าเกินไป ทันทีที่เด็กสาวปลดปล่อยเสียงครวญ เรือนกายกระตุกสั่น อย่างที่เขาไม่เคยเห็น มิอาจเห็น ด้วยเธอมิเคยสยบยอมพร้อมใจ มีแต่ดิ้นรน หรือไม่ก็เฉยนิ่งเย็นชา หรือมากสุดก็มองเขาด้วยแววตาว่างเปล่า...ทุกครั้ง )
                                                                             (หน้า 200-201)
และอีกเหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าอำนาจของความเป็นชายไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดของการให้ความสุขในเรื่องเพศ
(สุดคะเนหัวเราะเสียงใส เมื่อแดนเปลี่ยนเรื่อง
พอเถอะ คุยเรื่องอื่นดีกว่า กระผมรู้สึกจะเป็นใคร่
เด็กสาวจิบเบียร์แก้มแดงปลั่ง
แต่ฉันว่าคุยเรื่องความเศร้าแหละสนุก ชอบมุมมองของคุณนะ
ฮาฮา คุยเรื่องเศร้าสนุก แดนทวนคำ เห็นทีต้องจดไว้เขียน เป็นไง อารมณ์ดีขึ้นแล้วสิ
มั้ง” สุดคะเนจิบเครื่องดื่มอีก พูดตามตรงนะ ฉันไม่ชอบเล่นกับผู้ชายนักหรอก...ไม่เต็มใจ
แดนมีทีท่าสนใจมาก
ไม่เต็มใจ?”
ไม่ใช่ไม่เต็มใจอะไรอย่างนั้น เด็กสาวพยายามคิดหาคำพูด ยกมือประกอบ ...ไม่เติมเต็มจิตใจน่ะ พอนึกออกมั้ย
แดนหรี่ตา ประสบการณ์บอกว่าเด็กสาวเมาแล้ว
ชอบเล่นกับผู้หญิงงั้นหรือ
ไม่นะ สุดคะเนมีดวงตาแบบหนึ่ง กับผู้หญิงฉันไม่อยากใช้คำว่าเล่น...มันลึกซึ้งกว่านั้น
แดนเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ เหมือนถูกกระแทกตกจากที่สูง ชายหนุ่มบันทึกไว้ภายหลังว่า
เด็กคนนั้นพูดออกมาได้ ไม่ชอบเล่นกับผู้ชาย,ลึกซึ้งกับผู้หญิงแล้วกูล่ะ (เก็บไว้เป็นวัตถุดิบ?)’ )
                                                                             (หน้า 362-363)
จากการที่ผู้วิจารณ์บรรยายมาตั้งแต่ต้นจนถึงหน้านี้นั้น   ทำให้เห็นได้ว่าความเป็นผู้ชายนั้นถูกลดทอนโดยการมีผู้หญิงด้วยกันเองนั้นเป็นตัวลดทอนความเป็นชายลงไป  ในเรื่องที่กล่าวมาแสดงถึงความหมดอำนาจของผู้ชาย  องคชาติของผู้ชายไม่สามารถเติมเต็มความต้องการให้สุดคะเนได้  เห็นได้จากการที่สุดคะเนมีความสัมพันธ์กับผู้ชายในเรื่องถึงสองคน แต่สุดคะเนเห็นผู้ชายเป็นเพียงของเล่น เป็นสิ่งที่ไม่จริงจัง และไม่จำเป็นต่อการมีเพศสัมพันธ์เหมือนอย่างค่านิยม เหมือนกับความคิดที่ผู้ชายได้ละลึกไว้เสมอว่า ผู้ชายเองเท่านั้นที่สามารถสร้างความสุขให้ผู้หญิงได้ สามารถสร้างความตอบสนองทางเพศให้ผู้หญิงได้ ผู้ชายคิดว่าการมีเพศสัมพันธ์ของผู้ชายจะทำให้ผู้หญิงตกอยู่ในอำนาจและยอมจำนน

ในเรื่องนี้เห็นได้ว่าสุดคะเนหรือหวนคะนึงได้ทำการพิสูจน์แล้วว่าการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายนั้นก็ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของสุดคะนึงได้ในแบบที่ผู้ชายเชื่อมั่นในตนเองเพราะความมีองคชาติตนถึงเป็นผู้ที่สร้างความสุขให้ฝ่ายรับได้อย่างดีเยี่ยม  แต่แล้วสิ่งที่ผู้ชายคิดก็ผิดคลาด เพราะถึงจะผ่านการนอนกับผู้ชายมาแล้ว แต่สุดท้ายสุดคะเนก็เลือกผู้หญิง และมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงที่สามารถเติมเต็มได้มากกว่าผู้ชาย และเห็นได้ชัดจากตัวอย่างที่ยกมา สุดคะเนสามารถที่จะถึงจุดสุดยอดโดยการช่วยตัวเองมากกว่าที่จะร่วมเพศกับลม และกับแดนสุดคะเนก็มองว่าเป็นแค่ของเล่นซึ่งต่างจากความรู้สึกที่คะเนมีให้กับผู้หญิงในเรื่องนี้อย่างสิ้นเชิง  ในเรื่องนั้นเห็นได้ว่าสุดคะเนมีความจริงจังกับผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาในชีวิต ถึงแม้ว่าเธอจะผิดหวังแต่เธอก็ไม่คิดจะล้อเล่นกับความรู้สึกของผู้หญิงเหมือนที่ทำกับผู้ชาย
อ้างอิง
          การะเกต์  ศรีปริญญาศิลป์.2551.ปริมณฑลแห่งรัก.กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์มติชน