ชื่อบทกวี “ขอดวงใจวรรณศิลป์ไม่สิ้นธรรม” ในกาพย์กลอนแห่งอารมณ์ “มิเหมือนแม้นอันใดเลย” โดย ชมจันทร์
ตีความ
บทกลอนบทนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับอาชีพของนักเขียนที่ใครหลาย
ๆ คนอาจไม่เคยรู้มาก่อน
บางทีอาชีพของนักเขียนหลาย ๆ คนอาจจะไม่ได้มางาน ๆ
อย่างที่ใครบางคนคิด สายอาชีพนี้ต้องมีความอดทนอย่างมากกว่าจะผ่านไปแต่ละเดือน
กว่าจะเขียนงานแต่ละชิ้น กว่าจะได้รับการตอบรับ กว่าจะได้ตีพิมพ์
ซึ่งมันต้องผ่านช่วงชีวิตที่ทรหดมาก กว่าจะได้กว่าจะได้หนังสือออกมาแต่ละเล่มออกมาวางขายได้
ชีวิตของอาชีพนี้เหมือนจะง่ายแต่มันยากมากกว่าจะทำได้
กว่าจะเป็นที่ยอมรับ
ซึ่งเวลามันก็สามารถพิสูจน์สิ่งต่าง ๆ ได้เสมอ
เพราะเมื่อเวลาผ่านไปใครหลายคนก็เลิกที่จะทำอาชีพนี้ เพราะมันไม่ง่าย
มันไม่สวยหรูแบบที่คาดฝันไว้ ถ้าจะหวังเรื่องเงิน
เรื่องชื่อเสียง เรื่องเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ กับอาชีพนี้ คนที่จะอยู่กับงานที่เหนื่อยหนักและได้ผลตอบแทนน้อย
ทุกอย่างไม่มีคำว่าคงที่และแน่นอน
ฉันคิดว่างานทุกงานทุกสาขาอาชีพเป็นงานที่หนักและเหนื่อยเหมือนกัน เพียงแต่ว่าอาจจะหนักและเหนื่อย
หรือเจอปัญหาที่ต่างกันมากกว่า ไม่มีงานไหนที่ง่ายและไม่มีงานไหนที่ยาก
ฉันคิดว่าความยากหรือง่ายอาจจะไม่ได้อยู่แค่ตัวงานที่เราเลือก แต่มันอยู่ที่ความรักและความชอบของเรามากกว่า ไม่มีใครที่จะทนอยู่กับงานที่เราไม่ชอบได้ ไม่มีใครที่จะสามารถอดทนกับความลำบาก
ความเครียด แบกรับปัญหาต่าง ๆ ได้ถ้าเกิดว่าเราไม่ได้รักงานนั้นจริง ๆ
คนทุกคนต่างมีเงื่อนไขความต้องการของชีวิตที่ต่างกัน จุดนี้จึงเป็นจุดที่ทำให้เราเป็นตัวของเรา
อยู่ร่วมกับอุปสรรค์ต่าง ๆ ได้พร้อมจะก้าวผ่านทุกปัญหาได้ก็เพราะรัก