ชื่อบทกวี “เจ้าสาย” ในกาพย์กลอนแห่งอารมณ์
“มิเหมือนแม้นอันใดเลย” โดย
ชมจันทร์
ตีความ
บทนี้ทำให้เห็นถึงความคิดถึงใครสักคนที่ทำให้เราลืมไม่ลงจริง
ๆ เป็นความคิดถึงที่โหยหาแต่ไม่สามารถส่งไปถึงได้ ไม่สามารถรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นเช่นไรอยู่
ในบทนี้คำว่าเจ้าสายนั้น ชื่อเดียวกันแต่สื่อได้ถึงสองคน ซึ่งเจ้าสายคนแรกที่กล่าวถึงก็คือพี่สาว
และเจ้าสายอีกคนก็คือชายหนุ่ม
ซึ่งทั้งสองคนนี้ได้จากไปอย่างไม่สามารถที่จะพบเจอกับผู้เล่าเรื่องได้อีกแล้ว
สิ่งนั้นก็คือ ความตาย แต่ว่าความตายในบทนี้มีอยู่สองแบบคือ ตายแบบหมดสิ้นลมหายใจ กับ
ตายไปจากใจของผู้แต่งนั่นเอง
เราจะเห็นว่าเจ้าสายที่เป็นพี่สาวที่ผู้เล่าเรื่องคิดถึงนั้น
ได้ตายจากไปแบบที่หนึ่ง ซึ่งก็คือการตายแบบหมดสิ้นลมหายใจ และได้กลายเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ไปแล้ว ส่วนเจ้าสายที่หมายถึงชายหนุ่ม คือการตายไปจากใจผู้เล่าเรื่อง หนุ่มคนนี้อาจจะเป็นคนรักของเธอก็ได้ ที่จากเธอไปแบบไม่มีวันกลับมา
เพราะเจ้าสายคนนี้คือคนที่ทำให้ผู้เล่าเรื่องรู้สึกสุขใจ ดีใจที่ได้พบเจอ
เหมือนดอกไม้ที่เบ่งบานสวยงาม
แต่เมื่อไม่ได้เจอ ทุกอย่างก็พลันมืดมนเป็นทุกข์ไป
เหมือนกับพระจันทร์ที่มีเมฆมาบดบังแสงทำให้ห้องไม่สว่าง
ฉันคิดว่าในความหมายของพระจันทร์กับดอกไม้นั้นเหมือนกัน
นั่นก็คือความรู้สึกของผู้หญิง ถ้าเปรียบเป็นดอกไม้เราจะเห็นได้ว่าถ้ามีความสุขดอกไม้จะบาน
แต่ถ้าทุกข์เมื่อไหร่ดอกไม้จะเฉาทันที
ส่วนพระจันทร์ก็เป็นผู้หญิงอีกเช่นกัน
เพราะว่าพระจันทร์มีความหมายในเชิงเปรียบเทียบกับความสวยงามอยู่แล้ว แต่ถ้าพูดถึงแสงของพระจันทร์นั่นก็คือ
ความสุขความทุกข์ของผู้หญิงอีกเช่นกัน
เจ้าสายทั้งสองของบทนี้มีความสำคัญกับชีวิตของผู้เล่าเรื่อง เพราะทั้งสองส่งผลกระทบต่อผู้เล่าเรื่องโดยตรง
แต่ความสุขและทุกข์ต่างกัน กับเจ้าสายที่เป็นพี่สาวนั่น
เป็นความรู้สึกที่คิดถึงละลึกถึง
แต่เจ้าสายที่เป็นชายหนุ่มนั่นให้ความรู้สึกที่สิ้นหวัง คิดถึงในอารมณ์หม่น ๆ
โหยหาที่อยากจะเจอ แต่ก็ไม่สามารถที่จะเจอได้อีกแล้ว แต่สิ่งที่สองคนนี้เกี่ยวข้องกับผู้เล่าเรื่องก็คือ
สองคนนี้ไม่สามารถที่จะกลับมาเจอกับผู้เล่าเรื่องได้อีกแล้ว
และเรื่องของความรู้สึกเราก็ไม่สามารถทราบได้ว่า
เมื่อไหร่เราจะเลิกเสียใจและจมอยู่กับความทุกข์ได้เสียที