ชื่อบทกวี “แกว่งสารส้ม” ในรวมบทกวี “มือนั้นสีขาว” โดย ศักดิ์สิริ มีสมสืบ
ตีความ
บทนี้เกี่ยวกับการใช้สารส้มแกว่งน้ำที่ขุ่นนั้นให้ใสสะอาด ก็อย่างที่ทราบกันดีว่าสมัยก่อนนั้น เราก็ใช้สารส้มในการแกว่งใส่น้ำในโอ่ง
หรือภาชนะอะไรก็ได้ที่เราเอาไว้รองน้ำไว้ใช้
เพราะในสมัยก่อนนั้นเราไม่มีเครื่องกรองน้ำหรือน้ำเปล่าไว้ขายเหมือนในสมัยนี้ เราจึงได้นำสารส้มมาใช้เพื่อให้น้ำใสและสามารถเอาไปกินไปใช้ได้
แต่ว่าการเราใช้สารส้มมันก็ไม่ได้หมายความว่าน้ำนั้นจะสะอาดจริง
ๆ เพียงแต่สิ่งสกปรกที่อยู่ในน้ำนั้นได้ลงไปนอนอยู่ใต้ล่างแทน เราจึงต้องพยายามตักเบา ๆ เพื่อไม่ให้ตะกอนลอยตัวขึ้นมาทำให้น้ำขุ่นอีก ถ้าเปรียบกับสำนวนไทย ก็คงมาจากคำว่า น้ำขุ่นไว้ใน น้ำใสไว้นอก ซึ่งก็หมายความว่า เราควรจะเก็บความไม่พอใจเอาไว้ข้างใน และใช้ความดีแสดงออกมาให้คนภายนอกได้เห็นมากกว่า ถ้าเกิดเราทำให้ตะกอนที่ขุ่นอยู่ภายใจจิตใจแสดงออกมาปะปนกับน้ำใส
มันก็จะทำความขุ่นมัวกระจายไปในน้ำใสกลายเป็นน้ำสกปรกไปทั่วทั้งหมด
ถ้าจะให้เปรียบกับคนในสังคม อาจจะยกตัวอย่างได้ว่าจิตใจคนนั้นก็เหมือนน้ำที่อยู่ในโอ่ง
เมื่อเวลาเราโกรธแล้วเราแสดงออกให้คนภายนอกเห็น
เราก็เหมือนไปทำให้ตะกอนที่อยู่ในจิตใจนั้นได้ออกมาปะปนกับสิ่งดี ๆ ที่เราเคยสร้างขึ้น
แต่เมื่อตะกอนได้ปะปนเข้าเป็นเนื้อเดียวกับน้ำแล้ว
มันก็ทำให้คนอื่นมองเราไปได้แต่ในทางที่ไม่ดี แต่ถ้าเกิดว่าเราโมโหแต่เราพยายามที่จะไม่ทำให้ตะกอนมาปะปนกับสิ่งภายนอกที่เราสร้างขึ้น
ถึงแม้ว่าภายใจเราจะขุ่นมัวแค่ไหนก็ตาม แต่เราเลือกที่จะนิ่ง คนที่มองเราจากภายนอกก็จะมองเราในแง่ดีมากกว่าในแง่ลบ