ชื่อบทกวี “โศลกไพร” ในรวมบทกวี “มือนั้นสีขาว” โดย ศักดิ์สิริ มีสมสืบ
ตีความ
บทนี้เป็นเกี่ยวกับป่าไม้ คนสมัยก่อนนั้นมีความเชื่อเรื่องเจ้าป่าเจ้าเขากัน จึงคิดว่าตนได้ดูแลรักษาป่าเป็นอย่างดีแล้ว เพื่อที่จะสนองต่อเจ้าป่าเจ้าเขาที่มีต้นน้ำลำธาร
พืชพันธุ์สัตว์ป่าให้ได้หล่อเลี้ยงชีวิตของมนุษย์ แต่ว่าการที่คนเราได้กระทำต่อป่าแบบนี้มันคือการรุกล้ำป่า เพราะมันเป็นการทำลายป่า เพื่อประโยชน์ของตนเองมากกว่าที่จะเรียกว่าดูแล เพราะว่าการที่เราเข้าไปล่าสัตว์ในนั้น หรือไปตัดไม้ทำลายป่าเอามาใช้โดยที่เราเอาแต่ทำลาย
แต่เราไม่คิดที่จะปลูกต้นไม้ขึ้นมาทดแทน หรือการที่ไม่คิดจะเว้นช่วงให้สัตว์ป่าได้ผสมพันธุ์กันตามฤดูกาล
มันก็เป็นการทำลายระบบนิเวศของป่าอยู่ดี
ถึงแม้ว่าอาจจะมีทำพิธีขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขา
เซ่นไหว้ของต่าง ๆ นานาก็ตาม แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถมาทดแทนสิ่งที่ป่าสูญเสียไปได้ เช่น ต้นไม้ที่มีอายุมาเป็นร้อย ๆ สัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ เป็นต้น เมื่อเราตัดต้นไม้มาใช้ เราก็ควรที่จะปลูกต้นใหม่ทดแทนเพื่อได้มีการหมุนเวียนในธรรมชาติในอนาคตข้างหน้า
แต่ก็ไม่ควรที่จะตัดมาเกินความจำเป็นในการใช้สอยในการดำรงชีวิต
สิ่งที่มนุษย์ทำนั้นมันกลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่มนุษย์คิดไว้
มนุษย์คิดคือการบูชาป่า เหมือนว่าป่านั้นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่สิ่งที่มนุษย์ทำคือการหวังที่จะเอาประโยชน์จากป่าอยู่ฝ่ายเดียว ทั้ง ๆ ที่มนุษย์ก็ต้องพึ่งพาอาศัยป่า แต่กลับไม่คิดจะดูแล จนทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างในป่าเสื่อมโทรมลงไปเรื่อย
ๆ มันจึงเป็นเรื่องที่หน้าเศร้าที่มนุษย์ต่างไม่เห็นคุณค่า
และไม่รู้จักดูแลรักษา
เมื่อป่าได้ทรุดโทรมจนถึงวันที่ไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้กับสัตว์ในป่า หรือแม้กระทั้งมนุษย์เองก็ตาม
ได้อีกต่อไป เมื่อวันนั้นมาถึงมันคงสายเกินไปที่เราจะมานั่งเห็นคุณค่าของป่าเสียแล้ว