ชื่อบทกวี “ที่สุดของความอดทน” ในกาพย์กลอนแห่งอารมณ์
“มิเหมือนแม้นอันใดเลย” โดย
ชมจันทร์
ตีความ
ในบทกลอนบทนี้แสดงถึงที่สุดของความอดทน คือหมดทุกคำพูด
หมดทุกสิ่งทุกอย่างที่จะไปต่อได้แล้ว
สู้ไม่ไหวแล้ว
จึงขอออกมาจากจุดนี้ดีกว่า ฉันคิดว่าการตัดสินใจที่จะออกมาจากจุดจุหนึ่งซึ่งเราพยายามกับมันมากเกินพอแล้ว พยายามจนเราไม่เป็นตัวของตัวเอง พยายามจนเราสูญเสียความสุขไปกับการทำงานในแต่ละวัน
ซึ่งการที่เราพยายามอะไรจนมากเกินไป จนเราสูญเสียความเป็นตัวเอง สูญเสียความสุขในชีวิตทั้ง ๆ
ที่มันควรจะมีทั้งสุขและทุกข์ปะปนกันไป
แต่ถ้ามีแต่ความทุกข์เข้ามา
เราก็ควรที่จะยอมรับความจริงให้ได้
ยอมรับในการตัดสินใจของตนเอง
อะไรที่มันเกิดจากการฝืนตัวเอง
มันไม่มีสิ่งไหนที่จะส่งผลดีต่อตัวเราเลยทั้งกายและใจ
คำว่าความอดทน
กับคำว่าฝืน ฉันว่ามันต่างกัน
ความอดทนคือการที่เราพยายามที่จะเอาชนะสิ่งต่าง ๆ ไปให้ได้ มันจึงมีแรงผลักดันที่ทำให้กระตุ้นตัวเราเองให้พัฒนาต่อไป
ให้ก้าวไปข้างหน้า มันจึงเป็นการขับเคลื่อนด้วยพลังบวก
ด้วยแรงกระตุ้น
กล้าที่จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีกว่าเดิม กล้าลองอะไรใหม่ ๆ
ที่จะเข้ามาใจชีวิต แต่ถ้าเราใช้คำว่าฝืน
นั้นก็หมายความว่าเรารู้ตัวเองดีแล้วว่าเราทำได้แค่นี้ เราทำทุกอย่างที่เราสามารถทำได้แล้ว เราไม่อยากจะทำมันอีก แต่เราจำเป็นต้องฝืนความรู้สึกของตัวเองที่จะทำมันต่อไป ซึ่งถ้าการใช้คำว่าฝืน มันก็คือด้านลบ
ที่บอกว่าด้านลบเพราะว่าเราไม่มีแรงจะสู้มันต่อไปแล้วต่างหาก
เรารู้ตัวเองดีว่าเราไม่ไหวจริง ๆ เราอยู่กับมันไม่ได้
ถ้าเกิดว่าเราได้เดินทางมาถึงความรู้สึกนี้แล้ว มันจะจึงเป็นการตัดสินใจที่ดี
ที่เราจะเลิกฝืนตัวเอง
และเปิดรับสิ่งใหม่ที่เราชอบ เราสนใจ
และเราสามารถเป็นตัวเราได้อย่างเต็มที่
ฉันคิดว่าถ้าเกิดว่าใจเราต้องการสิ่งนั้นจริง ๆ ชอบสิ่งนั้นจริง ๆ ไม่ว่าอุปสรรคข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
เราก็สามารถผ่านมันไปได้โดยที่เราไม่ต้องฝืนความรู้สึกของตนเองเลย