วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2561

วิเคราะห์ภาพยนตร์เวลาในขวดแก้ว 2534


วิเคราะห์ภาพยนตร์เวลาในขวดแก้ว 2534
 ผู้อำนวยการสร้าง ประยูร วงษ์ชื่น
บทประพันธ์ของ ประภัสสร เสวิกุล
          เป็นเรื่องรวมของความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน เป็นการเก็บวันเวลาของ นิต หนิง ป้อง จ๋อม ชัย เอก ที่ผ่านอุปสรรคมากมายไม่ว่าจะเป็น ปัญหาทางครอบครัว ปัญหาทางสังคม ปัญหาทางความรัก และปัญหาทางการเมือง  เป็นเรื่องของเด็กคนหนึ่งที่มีชีวิตที่ธรรมดามีชื่อว่านัต เด็กหนุ่มที่อ่อนไหวมีน้องสาวชื่อหนิงทั้ง 2 เคยมีครอบครัวที่แสนอบอุ่นในวัยเด็ก แต่พอโตมาครอบครัวก็แตกร้าว พ่อกับแม่แยกทางกันโดยที่พ่อไปมีภรรยาใหม่ชื่อแหวว (พ่อของนัตเป็นคนที่ดื่มเหล้าเยอะ) นัตเป็นคนรักดนตรีมากนั่นคือ ไวโอลินหลังเลิกเรียนทุกวันนัตชอบไปนั่งที่ร้านเพลิงหมาแหงน นั่งจิบกาแฟและหยอดเหรียญฟังเพลงเวลาในขวดแก้วทุกครั้ง จ๋อมก็เป็นคนที่ชอบดนตรีเช่นเดียวกับนัตคือ ไวโอลิน ในตอนเย็นจ๋อมก็จะมานั่งเล่นนั่งฟังเพลงกับนัตตลอด จ๋อมเป็นสาวสวยฐานะดี และเป็นคนที่นัตรู้สึกชอบเป็นคนแรก ก่อนถึงวันเกิดนัต จ๋อมได้ให้ของขวัญนัตคือ นาฬิกาทราย ซึ่งนัตก็ดีใจมากคอยมองดูนาฬิกาทรายนั้นทั้งวันทั้งคืน วันหนึ่งถึงงานกีฬาบอล ของ 2 โรงเรียน ชัยและเอก เป็นเพื่อนของนัตก็ได้ลงแข่งด้วย และเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับชัยทำให้ชัยขาหัก ชัยใฝ่ฝันว่าอยากเป็นทหารตามที่แม่บอกสุดท้ายก็ขาหักจึงทำให้ความฝันของชัยไม่เป็นจริง  
ต่อมาพอนัตกับ หนิงรู้ว่าแม่มีแฟนใหม่นั่นคือลุงอมรเลยทำให้นัตโกรธและเสียใจจนพ่อของนัตได้มาคุยกับแม่นัตว่าจะเอายังไงกับเรื่องของตนทั้งคู่ เลยทำให้แม่นัตโมโหเลยหยิบไวโอลินของนัตที่นัตชอบมาฟาดเข้ากับหน้าของพ่อจนเลือด ด้วยความที่แม่ไม่ได้ตั้งใจแม่เลยให้นัตเก็บของไปอยู่กับพ่อ อยู่ได้พักหนึ่งหนิงก็ได้มาหานัตที่โรงเรียนพร้อมกับร้องไห้และบอกว่า แม่พาลุงอมรเข้ามาอยู่ที่บ้านหลายวันแล้ว เลยทำให้นัตเก็บของจากบ้านพ่อมาอยู่กับแม่ตามเดิมโดยที่ไม่พอใจกับแม่ที่พาลุงอมรเข้ามาอยู่ด้วย ลุงอมรนั้นแท้จริงมีภรรยาอยู่แล้ว แต่แม่นัตก็ยังคบหาจนวันหนึ่งแม่นัตขายบ้านหลังนั้นทิ้งไปและนำเงินมาเปิดร้านข้าว
ต่อมา นัต ชัย ป้อง และ เอก ก็ได้ไปเที่ยวด้วยกันที่ทะเล เป็นการเที่ยวด้วยกันก่อนแยกกันเข้ามหาลัย วันหนึ่งจ๋อมได้มาหานัตที่ร้าน และมาระบายให้นัตฟังว่ารู้สึกยังไงตอนรู้ครั้งแรกว่าพ่อของนัตผู้หญิงอื่น จ๋อมได้ระบายให้นัตฟังและบอกอีกว่าตนจะไปเรียนต่อที่อังกฤษ นัตก็ได้วาดรูปของจ๋อมอยู่ตลอดด้วยความคิดถึงเพื่อที่จะเอาไปให้ตอนที่จ๋อมกลับมาแล้ว มาวันหนึ่งหนิงน้องสาวของนัตก็ได้ร้องไห้และมาบอกกับนัตว่าตนเองท้องกับสมพงษ์ นัตกับป้องเลยตัดสินใจพาหนิงไปทำแท้งเพื่อเอาเด็กออกจนสุดท้ายหมอบอกว่าเด็กคนนี้ไม่สามารถมีลูกได้อีกแล้ว
วันหนึ่งประกาศผลสอบเข้ามหาลัยปรากฏว่าเอกนั้นสอบติดมหาลัยชื่อดัง ส่วนนัตฝันว่าอยากจะเข้าศิลปากร แต่สุดท้ายก็สอบไม่ติดเลยทำให้นัตเสียใจ ชัยไม่ได้สอบอยู่แล้วเพราะคิดว่าตนหัวไม่ดีเลยตัดสิ้นใจเข้ารามคำแหง ส่วนป้อมตอนสอบส่งกระดาษเปล่าโดยไม่เขียนอะไรเลยเพราะไม่เห็นด้วยกับการคัดเลือกแบบนี้ ต่อมาป้อมได้ทำการประท้วงแรงงานเพื่อความยุติธรรม ป้อมโดนตำรวจจับและโดนกระทืบจากการประท้วงครั้งนี้ทำให้ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและป้อมได้ติดคุก



หลังจากนัตสอบเข้าศิลปากรไม่ได้แล้วนัตก็ถูกให้เรียนนิติฯ โดยแม่บังคับ หลังจากนัตไปรับป้อมออกจากคุกแล้วก็พาไปดูดอกไม้ที่ป้อมชอบ วันหนึ่งนัตได้ขับรถตามหาจ๋อมเพราะป้อมบอกว่าเห็นจ๋อม เจอจ๋อมที่รามคำแหงแล้วนัตก็ได้ไปเจอชัยเลยถามว่าเห็นจ๋อมมั้ยชัยก็บอกไม่เห็นและให้นัตช่วยเขียนป้ายประท้วงแทน วันรุ่งขึ้นเหตุเกิดที่ชัยได้ทำการประท้วงระเบิดขึ้นอีกครั้งทำให้ป้อมเจ็บหนักจนเข้าโรงพยาบาล ชัยตกใจที่เห็นเพื่อนของตนที่ชื่อนิดและวินถูกแรงระเบิดตายต่อหน้ารีบวิ่งมาที่บ้านของนัต นัตและหนิงจะออกไปช่วยประท้วงเพราะทนเห็นเพื่อนของตนเองตายไปแบบนี้ไม่ได้  แม่หยิบปืนจากในลิ้นชักขึ้นมาจอที่หัว แม่ขู่ว่าถ้านัตกับหนิงออกไปแม่จะยิงตัวตายตอนนี้เลย นัตกับหนิงจึงยอมที่จะอยู่บ้าน  หลังจากวันนั้นนัตได้ไปเยี้ยมป้อมที่โรงพยาบาลป้อมและไม่นานป้อมต้องผ่าตัด เพราะมีสะเก็ดระเบิดอยู่ที่หัว หลังผ่าตัดเสร็จป้อมให้เอกหยิบกระดาษที่เขียนไว้จากใต้หมอนให้นัตอ่าน นัตที่วาดรูปของป้อมนั้นเพื่อจะให้ป้อม แต่ป้อมไม่ทันได้เห็นป้อมก็ได้ตายลงในที่สุด ทำให้เพื่อทั้ง 3 นัต ชัย เอก ถึงกับเสียใจมาก ต่อมาพอถึงวันที่นัตได้รับปริญญาทุก ๆ คนก็มาแสดงความยินดีกับนัตทุกคน แม้กระทั้งจ๋อมที่หายไปโดยไม่รู้ไปไหนก็กลับมาแสดงความยินดีกับนัต